ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วย
CDP + AI: จาก CDP สู่ Data Cloud

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ การใช้ Customer Data Platform (CDP) ร่วมกับ AI เป็นหนึ่งในปัจจัยสำหรับองค์กรที่ต้องการก้าวล้ำคู่แข่ง วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่า CDP คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และทำไม Data Cloud จาก Salesforce ถึงเป็นก้าวต่อไปของการจัดการข้อมูลลูกค้า

​

CDP คืออะไร?

​

Customer Data Platform หรือ CDP คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากหลากหลายแหล่งและช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย หรือระบบ CRM เพื่อสร้าง "Unified Customer Profile" ทำให้เราสามารถเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และเส้นทางการซื้อของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและครบถ้วน

​

ประโยชน์ของ CDP

​

CDP มีประโยชน์มากมายต่อธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยช่วยให้เราเข้าใจลูกค้าแบบ 360 องศา ตั้งแต่การท่องเว็บไซต์ไปจนถึงประวัติการซื้อสินค้า นำไปสู่การสร้าง Personalization ที่แม่นยำ ด้วยข้อมูลที่ละเอียด เราสามารถสร้าง segment ลูกค้าและนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงใจมากขึ้น นอกจากนี้ CDP ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีม โดยทั้งฝ่ายขาย บริการลูกค้า และการตลาดสามารถเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน ทำให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ CDP ที่มี AI ช่วยในการทำนายพฤติกรรมลูกค้า และสร้าง segment อัตโนมัติได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้แคมเปญการตลาดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และสามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำ

​

จาก CDP สู่ Data Cloud: ก้าวต่อไปของการจัดการข้อมูลลูกค้า

​

ในขณะที่ CDP ทั่วไปก็มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว แต่ Salesforce ได้พัฒนาต่อยอดด้วยการนำเสนอ Data Cloud ซึ่งเป็น CDP ที่มีความสามารถเหนือกว่า CDP ทั่วไป Data Cloud จาก Salesforce ไม่เพียงแต่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังผสานรวมเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้าไปด้วย ทำให้สามารถ

​

1. สร้าง Segment อัตโนมัติด้วย AI: ด้วย Generative AI ใน Data Cloud คุณสามารถสร้าง segment ลูกค้าได้โดยการพิมพ์คำอธิบายง่ายๆ เช่น "สร้าง segment ของลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของอุปกรณ์กีฬา" AI จะวิเคราะห์และดึง attribute ที่เกี่ยวข้องมาสร้างเป็น segment ที่ซับซ้อนและแม่นยำโดยอัตโนมัติ

2. ทำนายพฤติกรรมลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น: ด้วยฐานข้อมูลที่กว้างขวางและ AI ที่ฉลาดขึ้น Data Cloud สามารถทำนายพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำกว่า CDP ทั่วไป

3. เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ไร้รอยต่อ: Data Cloud สามารถเชื่อมต่อกับ tools อื่นๆ ของ Salesforce ไม่ว่าจะเป็น Sales Cloud, Service Cloud หรือ Marketing Cloud ได้อย่างราบรื่น ทำให้การนำข้อมูลไปใช้งานในแต่ละแผนกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ

​

ที่สำคัญ Data Cloud ร่วมกับ AI สามารถยกระดับการทำการตลาดให้เข้าใกล้การตลาดแบบ 1 ต่อ 1 (One-to-One Marketing) มากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการทำ Advanced Segmentation ผ่าน AI นักการตลาดสามารถสร้าง Micro-segments ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง เสมือนการสร้าง Segment สำหรับลูกค้าแต่ละคน ทำให้การ Personalization มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ตัวอย่างเช่น แทนที่จะแค่แบ่งกลุ่มลูกค้าตามอายุหรือเพศ AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ การใช้งานเว็บไซต์ การตอบสนองต่อแคมเปญในอดีต และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อสร้าง Segment ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น "ลูกค้าวัยทำงานที่ชอบซื้อสินค้าแฟชั่นออนไลน์ในช่วงต้นเดือน และมักจะตัดสินใจซื้อหลังจากดูรีวิวในโซเชียลมีเดีย" ซึ่งทำให้การนำเสนอสินค้า บริการ หรือ Content มีความเฉพาะเจาะจงและตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

การ Personalization ในระดับนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะตัวให้กับลูกค้าแต่ละคน เพิ่ม Engagement และโอกาสในการ Convert ได้มากขึ้น นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งาน (Customer Lifetime Value) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

​

สรุป

​

CDP + AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับธุรกิจที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด แต่การลงทุนควรพิจารณาตามความเหมาะสมของธุรกิจ โดยคำนึงถึงเป้าหมาย ความซับซ้อนของข้อมูลที่มีอยู่ และความพร้อมขององค์กร

 

สำหรับธุรกิจที่ต้องการก้าวไปอีกขั้น Data Cloud จาก Salesforce คือคำตอบ ด้วยความสามารถที่เหนือกว่า CDP ทั่วไป ทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับลูกค้าและผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น